สถานที่ท่องเที่ยวหรือประเทศเป้าหมายที่เหล่านักล่าฝันนักเที่ยวต้องไปเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิตคงจะมีประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในเป้าหมายอย่างแน่นอน และจริงๆ แล้วการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองไม่ได้ยากอย่างที่หลายๆ คนคิด แถมยังมีข้อดีหลายๆ อย่างที่เราจะได้ประสบพบเจอกันสถานที่ วิวที่สวยงาม และสัมผัสกับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่น สามารถไปทั้งเที่ยวทั้งแบบกรุ๊ปทัวร์หรือจะจูงมือไปกับแฟนกันเองเพื่อความยืดหยุ่นเรื่องแผนการท่องเที่ยวก็ได้เช่นกันครับ ในบทความนี้เราจะขอพาท่านผู้อ่านไปพบกับ “เที่่ยวโตเกียว-โอซาก้าญี่ปุ่นด้วยตัวเอง” และการวางแผนสำหรับงบที่ต้องใช้กัน พร้อมกับแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตให้ท่านได้ไว้สำหรับพิจารณาเที่ยวกัน และตอนนี้หลังจากสถานการณ์ COVID-19 ญี่ปุ่นก็ได้กลับมาเปิดประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปวางแผนกันเล้ย!!
การจองตั๋วเครื่องบินไป โตเกียวและโอซาก้า
ลำดับแรกของการท่องเที่ยวนั้นก็คือ “การหาตั๋วเดินทาง” ซึ่งหากเราสามารถหาตั๋วราคาประหยัดได้ งบการท่องเที่ยวที่ใช้ก็จะเบาลงไปตามกัน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อด้วยว่าต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางมากแค่ไหน ราคาระหว่างสายการบินแบบ Low Cost กับ Full Service ก็จะแตกต่างกันพร้อมทั้งบริการต่างๆก็จะไม่เหมือนกันด้วย ถ้าขนาดที่นั่งไม่เป็นปัญหา หิวเมื่อไหร่ค่อยซื้อบนเครื่องเอาก็ได้ คุมน้ำหนักกระเป๋าอยู่ เน้นราคาถูกก็เลือก Low Cost ถ้าอยากได้แบบนั่งสบาย เลือกที่นั่งได้ มีความบันเทิงพร้อม มีอาหารเสิร์ฟ ต้องการน้ำหนักกระเป๋าเผื่อๆไว้ก็เลือก Full Service ข้อระวังอีกอย่างก็คือระยะเวลาในการจองถ้ากระชั้นนิดมากๆแล้วเพิ่งจองแล้วละก็ Low Cost แค่ไหนก็เอาไม่อยู่เผลอๆนี่จะแพงกว่า Full Service ในช่วงโปรด้วยซ้ำไป ดังนั้นวางแผนดีๆ และทำการจองตั๋วล่วงหน้าไว้จะเป็นการดีที่สุดครับ ซึ่งราคาตั๋วจะอยู่ที่ประมาณ 7000 บาทขึ้นไป(ขึ้นอยู่กับช่วงโปรโมชั่น)
การจองที่พัก
ด้วยความก้าวหน้าและเทคโนโลยีในสมัยนี้ที่พักไม่ได้มีเฉพาะโรงแรมให้เลือกเท่านั้น แต่ยังมีโฮสเทล เกสต์เฮ้าต์ โรงแรมแคปซูล หรือแบบเช่าบ้านหรืออพาร์ตเมนต์ในเว็บ airbnb.com จากคนญี่ปุ่นได้อีกด้วย ซึ่งถ้าถามว่าเลือกพักแบบไหนดีก็ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าชอบที่พักแบบไหนนั้นเองครับ ซึ่งราคาของห้องพักก็จะแตกต่างกันไปตามที่ตั้ง สถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกเป็นหลักครับ ซึ่งราคาก็จะมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายหมื่นบาทเลยหล่ะ
6 สถานที่เที่ยวยอดฮิตใน โตเกียวและโอซาก้า
โอซาก้า
●จุดชมวิวอาเบะโนะ ฮารุกัส
เป็นจุดชมที่อยู่บนตึกสูง 300 เมตร ซึ่งเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ Jr Tennoji Station นอกจากเป็นจุดชมวิวแล้ว ยังมีห้างสรรพสินค้า พิพิธภัณฑ์ศิลปะ และโรงแรมอีกด้วย ดาดฟ้าชมวิวมีชื่อว่า Harukasu 300 อยู่บนชั้น58-60 (รวมสามชั้น) ซึ่งเข้าชมโดยขึ้นลิฟท์ที่ชั้น 16 บนชั้นที่ 58 จะมีลานระเบียงไม้ ร้านคาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึก บนชั้นที่ 60 สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา
การเดินทาง : เดินได้จากสถานีรถไฟ Tennoji Station มาได้เลย
●ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์เจแปน
สวนสนุกจากค่ายภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Universal Studioนี่เป็นอะไรที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยจริงๆไม่ว่าจะมาเป็นครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อนๆ ก็มาได้ สวนสนุกแห่งนี้นี่เรียกได้ว่ายิ่งใหม่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียเลยกว่าได้ แนะนำให้ใช้เวลาแบบเต็มวันนั้นมาแต่เช้า ที่สำคัญซื้อพาสมาจะดีที่สุดไม่งั้นรอคิวจนอาจหมดสนุกง่ายๆ มีเด่นอย่าง The Warding World of Harry Potter ที่ต้องถูกใจเหล่าสกวกพ่อมดน้อยแน่ๆ อย่างแน่นอน
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Yumesaki Line มาลงที่สถานี Universal City เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
●ปราสาทโอซาก้า
ปราสาทโอซาก้าเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดฮิตที่สุดของเมือง และยังเป็นสัญญลักษณ์ประจำเมืองนี้ด้วย สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1583 มีสวนรอบปราสาทขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นซากุระ ซึ่งจะสวยงามมากเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิช่วงปลายเดือนมีนาคม
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน สถานี Osaka Business Park Station หรือ รถไฟ JR สถานี Osakajokoen Station
●ย่านโดทงโบริ
ย่านที่รวมทั้งร้านอาหาร ร้านค้า และแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนไว้ในที่เดียวกัน เรียกได้ว่าไม่ว่าใครถ้ามาโอซาก้าแล้วไม่มาโดทงโบรินี่เหมือนมาไม่ถึง กลางคืนนี่เต็มไปด้วยสีสันของบรรดาร้านค้าต่างๆคึกคักมากๆ ของกินอร่อยๆ เยอะแยะ นอกจากนี้จุดชิคเอ็นยอดนิยมที่จะต้องไปยืนถ่ายรูปกันนั้นก็คือป้ายไฟกูลิโกะที่เปรียบสมือนเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของโอซาก้านั้นเองครับ
การเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟได้หลายสายทั้ง Subway Midosuji ,Sennichimae และYotsubashi Line ลงที่สถานี Namba แล้วเดินอีกประมาณ 10 นาที
โตเกียว
●วัดเซนโซจิ
ป็นวัดพุทธสีสันสดใสซึ่งตั้งอยู่ในเขต อาซากุสะ (Asakusa) ของ โตเกียว วัดนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 645 เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง และยังเป็นหนึ่งในวัดที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ โตเกียว ทางเข้าวัดโดดเด่นเป็นสง่าด้วย ประตูคามินาริ (Kaminarimon Gate) ชื่อดัง อันเป็นประตูสีแดงใหญ่มหึมามีโคมไฟยักษ์แขวนอยู่ ประตูคามินาริ เป็นสัญลักษณ์โด่งดังของ อาซากุสะ ใครมาเยือนต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
การเดินทาง : สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟ Asakusa Subway Line, Ginza Subway Line, และ Tobu Railways
●อุทยานหลวงชินจูกุ
เป็นพื้นที่กลางแจ้งแสนสงบในเมืองอันวุ่นวาย อุทยานหลวงชินจูกุ ซึ่งเดิมทีเคยเป็นที่พำนักของโชกุน ได้กลายมาเป็นอุทยานของพระราชวังอิมพีเรียลในปี 1903 และสุดท้ายก็กลายเป็นสวนสาธารณะในปี 1949 สวนกว้างขวางขนาดราว 330 ไร่นี้มีสนามหญ้าเป็นเนินสวยเหมาะกับการปิกนิก และมีทางเดินคดโค้งที่เราจะได้ทอดน่องใต้ต้นซากุระนับพันให้ได้เดินชมกันครับ
การเดินทาง : สวนสาธารณะแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก จะลงรถไฟจากสถานีไหนจึงขึ้นอยู่กับว่าเราอยากเข้าสวนทางประตูไหน ประตู Shinjuku Gate อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Shinjukugyoemmae Station, Shinjuku Station หรือลง Sendagaya Station ก็ได้ครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับกับข้อมูลการเตรียมตัวสำหรับทริปเที่ยวญี่ปุ่นเกียว-โอซาก้า เบื้องต้นที่เราได้แนะนำกันไปกัน ทั้งนี้เรื่องของงบประมาณนั้นล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับท่านผู้อ่านเป็นหลักเลยหล่ะครับว่าจะอาศัยความสะดวกถึงขนาดไหน เราหวังว่าบทความของเราจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ